ประโยชน์ของน้ำเต้าหู้
มารู้จักน้ำเต้าหู้กันดีกว่า
สำหรับคนที่ไม่ดื่ม นมเพราะเหตุใดก็ตาม จะ ได้รับคำแนะนำให้ดื่มนมถั่วเหลือง คงไม่มีใครไม่รู้จักน้ำเต้าหู้ แต่พอเรียกนมถั่วเหลืองดูเป็นเครื่องดื่มมีค่ามากขึ้น ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ เป็นอาหารประจำชาติ ได้อย่างหนึ่ง พอ ๆ กับกล้วยแขก มันทอดเป็นขนมริมทาง เมื่ออาหารฟาสต์ฟู้ดและขนมจากโรงงานเข้ามา น้ำเต้าหู้และกล้วยแขกกลายเป็นอาหารชาวบ้าน อีกหน่อยร้านค้ารายย่อยแพ้อาหารตามห้าง น้ำเต้าหู้และกล้วยแขกจะมีค่าขึ้นมาเพราะหายาก
น้ำเต้าหู้ใส่กล่อง ขายตามห้างมีชื่อใหม่ว่านมถั่วเหลือง เมื่อใส่กล่องแล้วต้องมีชื่อเป็นฝรั่งได้รับการโฆษณาเพิ่มราคา ขึ้นไปอีก จะดื่มน้ำเต้าหู้ หรือนมถั่วเหลือง หรือนมถั่วเหลืองเสริมนมวัว ผู้ดื่มคงได้รับประโยชน์เท่ากัน ถ้าใช้สัดส่วนการทำเหมือนกัน แต่ผู้บริโภคไม่อาจรู้ได้ว่าเขาใส่น้ำมากหรือน้อย นมวัวนั้นมีมาตรฐานแน่นอน มี กฏหมายห้ามเติมน้ำหรือสิ่งอื่นใด คนดื่มนมวัวแน่ใจได้ว่าได้รับโปรตีน 8 กรัม แคลเซียม 300 มิลลิกรัม
ดื่มน้ำเต้าหู้จะได้ รับประโยชน์มากกว่าเครื่องดื่มอื่น ๆ ถ้าจะเทียบกับนมจะมีข้อดีกว่าและบางอย่างจะสู้นมไม่ได้ นมถั่วเหลืองหรือน้ำเต้าหู้ให้โปรตีนเกือบเท่านม มีไขมันที่ดีกว่า คือ ให้กรดไขมันไม่อิ่มตัวมากกว่านม ช่วยลดโคเลสเตอรอล สำหรับข้อเสีย คือน้ำเต้าหู้ให้แคลเซียมน้อยมาก คนไม่ดื่มนมจะต้องกินอาหารอื่นที่ให้แคลเซียม คือผักสีเขียวและปลาตัวเล็ก
เครื่อง ดื่มที่มีความข้นไม่ว่าจะเป็นนม นมถั่วเหลือง หรือน้ำผลไม้ปั่น เป็นอาหารที่อาจมีการเติมน้ำได้โดยที่ผู้บริโภคไม่รู้ ถ้าจะขายอาหารให้ได้กำไรต้องใส่ของแพงแต่น้อย เติมน้ำหรือของอื่นราคาถูกลงไป เมื่อ ซื้อน้ำหวานเป็นถ้วย คนขายจะใส่น้ำแข็งจนเต็มก่อนแล้วจึงเติมน้ำหวาน ได้เครื่องดื่มถ้วยโต แต่ดูดได้นิดเดียว นมถั่วเหลืองหรือน้ำเต้าหู้ทำจากถั่วเหลืองโม่หรือปั่นละเอียด พร้อมกับเติมน้ำ ถ้า เติมน้ำน้อยนมจะข้นมีสารอาหารมาก ถ้า เติมน้ำมากนมจะใสมีสารอาหารน้อย
นม ถั่วเหลืองที่บรรจุกล่องสำหรับขายในประเทศไทย และส่งออกไปขายต่างประเทศจะมีฉลากบอกข้อมูลทางโภชนาการที่หลาย ประเทศบังคับ ทำให้ผู้บริโภคใน ประเทศไทยได้รับความรู้ไปด้วย จำเป็นสำหรับสุขภาพในปัจจุบัน คือปริมาณไขมันและไขมันอิ่มตัว โคเลสเตอรอล โปรตีน คาร์โบไฮเดรต เส้นใย น้ำตาลและโซเดียม
สำหรับสุขภาพที่ดี เราควรได้รับไขมันน้อย และ ในบรรดาไขมันทั้งหมดจะต้องมีไขมันอิ่มตัวน้อย โปรตีนและเส้นใยเป็นสิ่งที่ควรได้รับมาก คาร์โบไฮเดรตอาจจะมีมากหรือน้อย แต่ น้ำตาลควรจะน้อย เมื่อเทียบกับคาร์โบไฮเดรตทั้งหมด และควรได้รับโซเดียมน้อย การกำหนดว่าควรได้รับสารใดมากสารใดน้อย เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย อัตราการเจ็บป่วยและตายจากโรคหัวใจและมะเร็งเกิดขึ้นมาก ทำให้ต้องควบคุมอาหารดังกล่าว
นมถั่วเหลืองเป็น อาหารที่เข้ายุคสมัย เพราะ ไขมันในนมถั่วเหลืองเป็นไขมันที่ช่วยลดโคเลสเตอรอล ทำให้ลดโอกาสที่จะเป็นโรคหัวใจ เมื่อคนกินอาหารนอกบ้านกันมาก ได้รับไขมันอิ่มตัวมาก ทำ ให้เป็นโรคหัวใจกันมากขึ้น ทุกคนต้องทำงานนอกบ้านไม่มีเวลาทำงาน กว่าจะกลับถึงบ้านก็เหนื่อยและหิวกินให้อิ่มก่อนเข้าบ้านง่ายกว่า ความสะดวกของการซื้อกินมีมาก คนทำร้านอาหารก็มาก ไม่ว่าจะมีการก่อสร้างเกิดขึ้นที่ไหน มีสำนักงาน โรงเรียน ที่อยู่อาศัย ที่อยู่กันหนาแน่น จะมีร้านอาหาร คนจำนวนมากไม่ทำครัว ซื้อกินทุกมื้อ อาหารนอกบ้านมีไขมันมาก
อาหารตามสั่งจะเป็น อาหารผัด อาหารทอด ล้วนมีน้ำมันมาก คน ขายต้องใช้น้ำมันปาล์มเพราะราคาถูกกว่าน้ำมันพืชอื่น ๆ น้ำมันปาล์มมีไขมันอิ่มตัวมาก ถ้าทำงานที่ไม่ต้องออกกำลัง เคลื่อนไหวร่างกายน้อย ร่าง กายจะสร้างไขมันสะสมไว้ เกิดไขมันแทรกในตับในหัวใจ และโคเลสเตอรอลในเลือดสูง ถ้า รู้ตัวว่าไม่ค่อยได้ออกกำลัง และกินอาหารสำเร็จรูปประจำ ควรไปตรวจร่างกายและตรวจเลือดปีละครั้ง ถ้าพบภาวะไขมันในเลือดสูง จะต้องปฏิบัติตนตามคำสั่งแพทย์
โปรตีน จากถั่วเหลืองเป็นโปรตีนที่สมบูรณ์ คนโบราณกินถั่วงอกหัวโต เต้าหู้ เต้าเจี้ยว และนมถั่วเหลือง ถึงจะไม่ได้กินเนื้อสัตว์ก็แข็งแรงดี นมถั่วเหลืองจะดีกว่านมวัวตรงที่มีเส้นใยอาหารด้วย เส้นใยอาหารช่วยการขับถ่าย และ ป้องกันโรคมะเร็งทางเดินอาหาร อาหารสำเร็จรูปไม่ค่อยมีเส้นใยอาหาร คนที่กินข้าวที่ขัดสีจนขาว ขนมปังขาว ไม่ค่อยได้กินผักผลไม้ จะขาดเส้นใยอาหาร ทำ ให้ท้องผูก คนที่ท้องผูกบ่อยจะเป็นโรคริดสีดวงทวารได้ กากอาหารที่สะสมอยู่ในร่างกายมีส่วนที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง นักโภชนาการแนะนำให้กินเส้นใยวันละ 25 กรัม
ข้อเสียของนมถั่ว เหลืองหรือน้ำเต้าหู้ ส่วน มากเป็นน้ำตาลที่เติมจนหวานจัด ถ้า ผู้ขายใส่น้ำตาลมากแสดงว่าผู้บริโภคต้องการเช่นนั้น คนไทยเป็นโรคเบาหวานเมื่ออายุมาก เป็นผลจากการกินหวานมากเกินไป เป็นระยะเวลานาน น้ำตาล ที่เกินความต้องการจะเปลี่ยนเป็นไขมันในร่างกาย คนกินหวานกันมากเกินไป ทำให้ต้องระบุปริมาณน้ำตาลที่ฉลาก คนป่วยในความดูแลของแพทย์จะต้องควบคุมน้ำตาล อาหารสำเร็จรูปบอกข้อมูลทางโภชนาการเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือก ซื้อได้
ถ้า มีเครื่องบดอาหาร ทำนมถั่วเหลืองกินเอง จะลดน้ำตาลและทำให้ข้นได้ตามความต้องการ เพียงแช่ถั่วเหลืองค้างคืนไว้ ใช้ ถั่วแช่น้ำแล้ว 500 กรัม ปั่นในเครื่องปั่นพร้อมกับค่อย ๆ เติมน้ำจนครบ 2 ถ้วย ผสม กับน้ำอีก 10 ถ้วย กรอง แล้วต้มไฟอ่อนไม่ถึงกับเดือด ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล ถ้าไม่อยากอ้วนไม่ต้องใส่น้ำตาลหรือใส่น้อย ๆ จะได้นมถั่วเหลืองสดสะอาด
ประโยชน์ ของน้ำเต้าหู้
1. ป้องกันโรคมะเร็ง โรคกระดูกพรุน อาการวัยทองและโรคหลอดเลือดหัวใจ
2. ให้โปรตีนเกือบเท่านม มีไขมันที่ดีกว่า คือให้กรดไขมันไม่อิ่มตัวมากกว่านม ช่วย ลดโคเลสเตอรอล
ข้อ เสีย คือ ให้แคลเซี่ยมน้อยมาก (ก็กินน้ำเต้าหู้ที่ใส่งาดำ แทนนะ ) ^^+
ชาเขียวมีประโยชน์ต้องชงดื่ม ไม่ใช่ดื่มจากขวดกระแสการบริโภคชาเขียวกำลัง เป็นที่นิยม ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากชาเขียวกลายเป็นสินค้าที่มียอด ขายสูง
ปัจจุบันกระแสการบริโภคชาเขียวกำลังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ทำให้มีการนำชาเขียวมาดัดแปลงเป็นสินค้าที่มีอยู่ตามท้องตลาดมาก มายหลายชนิด ซึ่งส่งผลทำให้ ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากชาเขียวกลายเป็นสินค้าที่มียอดขายสูง |
|
การนำชา เขียวมาใช้ มีด้วยกันทั้งหมด 15 วิธี
อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า แท้ที่จริงแล้ว การดื่มชาเขียวให้ถูกต้องและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้น จะต้องดื่มให้ถูกวิธีจึงจะได้รับสารสำคัญต่างๆ ที่มีอยู่อย่างครบถ้วน ที่สำคัญคือ มีข้อมูลจากทางการแพทย์แผนจีนยืนยันด้วยว่า การดื่มจากขวดนั้นเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง
มานพ เลิศสุทธิรักษ์ นายกสมาคมแพทย์แผนจีนในประเทศไทย ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า การนำชาเขียวมาใช้ควบคู่กับพืชชนิดอื่น ๆ จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการรักษาโรคได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ สำหรับวิธีการใช้มีด้วยกันทั้งหมด 15 วิธี คือ
1.การใช้ชาเขียวร่วมกับใบหม่อน ที่ช่วยป้องกันโรคหวัด ลดไขมันในเส้นเลือดได้เป็นอย่างดี
2.การใช้ชาเขียวกับส่วนหัวของต้นหอม จะช่วยขับเหงื่อ แก้ไข้หวัด
3.การใช้ชาเขียวร่วมกับขิงสด ช่วยรักษาอาการอาหารเป็นพิษและจุกลม
4.การใช้ชาเขียวร่วมกับตะไคร้แห้งจะช่วยขับไขมันในเส้นเลือด
5.การใช้ชาเขียวร่วมกับคึ่นฉ่ายจะช่วยในการลดความดันโลหิต
6.การใช้ชาเขียวร่วมกับไส้หมาก ลดน้ำตาลในเส้นเลือด
7.การใช้ชาเขียวร่วมกับดอกเก๊กฮวยสีเหลือง จะช่วยแก้วิงเวียนศีรษะ ตาลาย
8.การใช้ชาเขียวร่วมกับลูกเดือย จะลดอาการบวมน้ำ ตกขาว และมดลูกอักเสบ
9.การใช้ชาเขียวร่วมกับเม็ดเก๋ากี้ จะช่วยลดความอ้วน แก้ตาฟาง
10.การใช้ชาเขียวร่วมกับโสมอเมริกา ทำให้สดชื่น บำรุงหัวใจ แก้คอแห้ง
11. การใช้ชาเขียวร่วมกับเนื้อลำไยแห้ง จะบำรุงสมอง เสริมความจำ
12. การใช้ชาเขียวร่วมกับบ๊วยเค็ม จะช่วยบรรเทาอาการคอแห้ง แสบคอ เสียงแหบ 13. การใช้ชาเขียวร่วมกับหนวดข้าวโพด จะลดความดันโลหิต ลดน้ำตาลในเส้นเลือด ลดอาการบวมน้ำ
14. การใช้ชาเขียวร่วมกับน้ำตาลกลูโคส จะช่วยบรรเทาอาการตับอักเสบ
และ 15.การใช้ชาเขียวร่วม กับเม็ดบัว จะช่วยบรรเทาอาการ ฝันเปียก และยับยั้งการหลั่ง เร็ว
|
|
นอกจากนี้ นายกสมาคมแพทย์แผนจีนในประเทศไทยยังบอกถึงคุณสมบัติหลักของชา เขียวด้วยว่า นอกจากสรรพคุณในเรื่องของการขับพิษ ขับปัสสาวะ ขับไขมันในเส้นเลือด ทำให้เย็น ชุ่มคอแล้ว รสขมอมหวาน หอม ในชาเขียวยังให้ประโยชน์ในการรักษาโรคต่าง ๆ ได้หลายโรค ทั้งยังช่วยผ่อนคลายอารมณ์ สงบประสาท ระบายความร้อนตื้อ จากศีรษะและเบ้าตา ช่วยให้สดชื่น ไม่ง่วงนอน ช่วยให้หายใจสดชื่น เจริญอาหาร แก้เมาเหล้า ทำให้สร่างเมา ขับปัสสาวะ ป้องกันนิ่วในถุงน้ำดีและในไต และสามารถขับเหงื่อ แก้หวัด
ขณะเดียวกันชาเขียวยังช่วยแก้กระหาย ระบายร้อนจากระบบปอด ขับเสมหะ ขับไขมัน ลดความอ้วน แก้ร้อนใน ขับพิษตกค้าง บิด ท้องร่วง ท้องเสีย ช่วยทำให้ฟันแข็งแรงและที่ได้ผลดีคือสามารถเป็นยาอายุวัฒนะ
อย่างไรก็ตาม นอกจากความมหัศจรรย์ของชาเขียวที่สามารถรักษาโรคภายในได้แล้วยัง สามารถช่วยรักษาโรคภายนอกได้ด้วย เช่น พอกแผลอักเสบ พุพอง ฝีหนอง ไฟไหม้ ผื่นคัน ผิวร้อนแห้ง ช่วยให้ตาสว่าง เย็น ไม่อักเสบ สามารถดับกลิ่น เป็นยากันยุง และนำไปทำหมอนใบชาเพื่อลดอาการปวดหัวเวลานอนได้อีก
|
|
ชาเขียวสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้หลายโรคแต่จะต้องกินให้ ถูกวิธีและใช้ให้เหมาะสมกับร่างกาย
ทั้งนี้ ชาที่ดีจะต้องมีรสขมอมหวานและมีกลิ่นหอม โดยในชาเขียวมีสารต่างๆ ที่อยู่ในใบชา 300-400 ชนิด แต่มีสารสำคัญอยู่ 6 ชนิด คือ 1.กาเฟอีนซึ่งช่วยทำ ให้ร่างกายสดชื่น มีผลต่อการเต้นของหัวใจ ผ่อนคล้ายกล้ามเนื้อ และสามารถขับปัสสาวะได้ดี 2.ทิโอฟิลีนช่วยทำให้ร่างกายสดชื่น ส่งผลต่อการเต้นของหัวใจ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและช่วยในการขับปัสสาวะ 3.ทิโอโบรมีนช่วยทำให้ร่างกายสดชื่น มีผลต่อการเต้นของหัวใจ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและช่วยในการขับปัสสาวะ 4.แทนนิน 5.มีวิตามินต่าง ๆ เช่น B1,B2,B3,B5, A,D,E,K, C และ 6.มีแร่ธาตุ,ไขมันและน้ำตาล
นายกสมาคมแพทย์แผนจีนในประเทศไทย ให้ข้อมูลเพิ่มเติม แม้ชาเขียวจะมีประโยชน์กับร่างกายมากมาย แต่ในความจริงก็มีสารที่มีโทษกับร่างกายด้วยเช่นกันโดยสามารถส่ง ผลข้างเคียงต่อร่างกาย แต่ไม่ถึงกับเป็นอันตรายมากนัก ส่วนมากจะเกิดกับคนที่มีสภาพร่างกายไม่แข็งแรง โดยเมื่อดื่มแล้วอาจมีอาการใจสั่น นอนไม่หลับ ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ทั้งยังอาจทำให้เกิดอาการท้องผูก ฟันดำ และหากดื่มอย่างต่อเนื่องอาจเป็นการเสพติดได้
สำหรับชาเขียวในที่นี้ ไม่ใช้เครื่องดื่มชาเขียวที่มีจำหน่ายเป็นขวดในท้องตลาด แต่เป็นชาเขียวที่ต้องเป็นชาที่ชงเองแต่อย่าชงทิ้งไว้ควรดื่มตอน ร้อน ๆ และไม่ควรใส่น้ำตาล ทรายขาวลงไปในการชงชาเพราะจะทำให้คุณสมบัติทางยาของชาเขียวหมดไปมานพสรุป อย่างตรงไปตรงมา
ดังนั้น จะเห็นได้ว่าชาเขียวสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้หลายโรคแต่จะต้องกินให้ถูกวิธีและใช้ให้เหมาะสมกับร่างกาย จึงจะทำให้การดื่มชาเขียวเกิดประโยชน์อย่างสูงสุด เพราะในการวิจัยผู้ดื่มชาเขียวเป็นประจำยังไม่พบว่ากลุ่มคนเหล่า นี้ ได้รับโทษจากการ ดื่มชาเขียว แต่กลับกันกลุ่มคนเหล่านี้กับมีร่างกายที่แข็งแรง และยังมีภูมิคุ้มกันในการต้านโรคต่างๆ ได้เป็นอย่างดี แล้ววันนี้คุณดื่มชาเขียวแล้วหรือยัง
| |
สิ่งที่ห้ามทำ 5 ข้อ เมื่อคุณจะเข้านอน
1) ห้ามใส่นาฬิกาข้อมือ เมื่อเข้านอน เพราะนาฬิกาข้อมือจะปล่อยรังสีอะตอม ขนาดเล็กออกมาขณะที่ร่างกายพักผ่อน ซึ่งมันจะมีผลกระทบกับสุขภาพคุณแน่นอน
2) ห้ามใส่เสื้อชั้นในสตรี เมื่อเข้านอน นักวิทยาศาสตร์อเมริกาได้ค้นพบว่าถ้าใส่ บราเกิน 12 ช.ม. ต่อวัน คุณๆ ผู้หญิงมีโอกาสเสี่ยงสูงในการเป็นมะเร็งเต้านม เข้านอนโดยปราศจากบรากันเถอะค่ะ
3) ห้ามวางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ตัว เมื่อเข้านอน หรือข้างเตียงโดยเฉพาะบางคนใช้มันเป็น นาฬิก าปลุก ควรวางไว้ห่างๆ ตัวเอง นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ว่าวงจรอิเล็คโทรนิคในโทรศัพท์มือถือ ชุดเครื่องเสียงและโทรทัศน์จะปล่อย คลื่นแม่เหล็กขณะใช้งานซึ่งส่ง ผลกระทบระบบประสาท ดังนั้นถ้าคุณจำเป็นต้องวางไว้ใกล้ตัว ขณะนอน.....ปิดเครื่องพวกมันซะนะคะ
4) ห้ามเข้านอน โดยไม่ได้ล้าง make up บนหน้า ถ้าเข้านอนโดยไม่ได้ลบ Make up บนใบหน้าจะทำให้เกิดปัญหากับผิวในระยะ ยาวเพราะผิวหนังจะขับของเสียขณะนอนหลับได้ลำบาก
5) ห้ามเข้านอนกับ สามีหรือภรรยา ของคนอื่นเพราะอาจจะไม่ตื่นอีกเลย