
จงสู้ ๆ อย่าท้อ ข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต ขอให้เพื่อนมีความสขุกับการอ่านนะครับ ถ้ามีอีกผมจะเอามาแบ่งปันอีกนะครับ ค่อยติดตามก็แล้วกัน กับ ข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต
ไม่มีใครในโลกนี้ที่เกิดมาแล้ว
ไม่เคยประสบพบเจอแต่ความล้มเหลว
แต่ถ้าหาก เรายังจมปลัก อยู่ กับความล้มเหลวโดยไม่คิดที่จะลุกขึ้นมาสู้ใหม่
ชีวิตนี้ของเราก็จะพ่ายแพ้และล้มเหลวตลอดไป
เมื่อใดก็ตามที่เราประสบความล้มเหลว
เราก็จะได้รับบทเรียนให้กับชีวิต
การค้นหาข้อผิดพลาด และข้อบกพร่อง
จะทำให้เราได้ประสบการณ์ และ สามารถลุกขึ้นสู้
จนท้ายที่สุดก็จะพบ กับชัยชนะ จากการต่อสู้นั้นๆ
หาก เราคิดในทางสร้างสรรค์
ความ ล้มเหลวยังทำให้เรามีสติปัญญาคิดไตร่ตรองมากยิ่งขึ้น
มีกำลังใจที่เข็มแข็ง มีความเชื่อมั่น เข้าใจในความทุกข์
และมีความอุตสาหะมากยิ่งขึ้นด้วย
ถ้าเราคิดได้ดังนี้เราจะมีแรงฮึด
ลุกขึ้นมาสู้ได้อีกอย่างแน่นอน
การรู้จัก ที่จะมีความอดทน ต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรค
เป็น สิ่งสำคัณอย่างยิ่งกับความเจริญก้าวหน้า
คนที่ไม่รู้จักอดทนต่อสู้ มักจะมีชีวิตที่แห้งเฉา
อยู่อย่างซังกะตายไปวันๆ
ชีวิต ไม่มีความหมายกับคนพวกนี้เลย
ผู้ ที่ไม่อดทนต่อสู้กับอุปสรรค
จะ ไม่มีทางประสบความสำเร็จในชีวิตนี้ได้
เพราะเขาจะไม่มีพลังใดๆ มา ต่อสู้กับปัญหาได้เลย
เขา จึงต้องพบกับความผิดหวัง และ ความล้มเหลวอยู่เป็นประจำนั่นเอง
นอก จากนี้การต่อสู้ ที่งดงาม
ก็ มิใช่การต่อสู่ที่เหยียบย่ำผู้อื่น
จน ทำให้ตัวเองกลายเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จแต่เพียงผู้เดียว
เมื่อ ใดก็ตามที่เราลงมือต่อสู้
เรา ก็จะพบว่า...
เราก็มีความสามารถและ มีพรสวรรค์
ที่กำลังก่อตัวอยู่ใน ตัวเราอย่างไม่น่าเชื่อ
ชึ่ง นี้นี่เองคือผลพลอยได้ อย่าง หนี่ง
ของการได้ลงมือต่อสู้ นั่นเอง
นี่เป็นกลวิธีที่จะช่วยให้ท่านฝึกปฏิบัติผสมผสาน
การให้บริการเข้าไปในชีวิตของท่านได้
วิธีนี้จะแสดงให้เห็นว่าการทำสิ่งดีงามแก่ผู้อื่น
โดยไม่คาดหวังผลตอบแทนเป็นเรื่องง่าย
และทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีเพียงใด
บ่อยครั้งทั้งรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวที่เราต้องการอะไรบางอย่างจาก ผู้อื่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเราได้ทำอะไรบางอย่างให้ผู้อื่น เช่น
"ฉันล้างห้องน้ำเสร็จแล้ว ตอนนี้เธอทำความสะอาดห้องครัวบ้าง"
หรือ "ผมช่วยดูแลลูกๆ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว อาทิตย์นี้คุณควรดูแลลูกๆ บ้าง"
ดูคล้ายกับว่าเราจะสะสมคะแนนการทำความดีของเราเอง
มากกว่าจะระลึกว่าการให้เป็นรางวัลในตัวของมันเอง
เมื่อทำอะไรบางอย่างที่ดีงามให้กับใครบางคนด้วยความเต็มใจอย่าง แท้จริง
ท่านจะสังเกตเห็น ว่า (หากจิตใจของท่านสงบพอ)
ความรู้สึกดีงามอันเกิดจากความสงบและสันติจะเกิดขึ้น
เช่นเดียวกับการออกกำลังกายจะทำให้เกิดการหลั่งฮอร์โมนเอน เดอร์ฟินส์ในสมอง
ซึ่งจะทำให้ร่างกาย เรารู้สึกดีขึ้น
การ กระทำที่ประกอบด้วยความรักและความเมตตา
จะ ช่วยปลดปล่อยความตรึงเครียดทางอารมณ์
เช่นเดียวกัน รางวัลของท่านก็คือความรู้สึกที่ได้รับรู้ว่า
ท่านมีส่วนร่วมในการแสดงความรักความเมตตา
ท่านไม่จำเป็นต้องได้รับอะไรบางอย่างตอบแทนหรือแม้แต่คำว่าขอบคุณ
ที่จริงแล้วท่านไม่จำเป็นแม้แต่ให้บุคคลผู้นั้นทราบว่าท่านได้ทำ อะไรให้เขาบ้าง
สิ่งที่รบกวนความรู้สึกสงบสุขในจิตใจคือความคาดหวังที่จะได้รับผล ตอบแทน
ความคิดของเราเอง ที่นึกถึงแต่สิ่งที่เราต้องการ
หรือควรได้รับจะรบกวนแทรกแซงความรู้สึกสงบสุขในใจ
วิธีแก้ไขก็คือการสังเกตความคิดของตัวเองว่า
"ฉันต้องการอะไรบางอย่างเป็นการตอบแทน" ได้เกิดขึ้นแล้ว
และพยายามขจัดความคิดดังกล่าวอย่างนุ่มนวล
เมื่อไม่มีความคิดดังกล่าวความรู้สึกทางบวกจะหวนคืนมา
ทดลองดูว่าท่านสามารถคิดถึงอะไรบางอย่างอันดีงาม
ที่ท่านสามารถทำให้กับผู้อื่นโดยไม่ต้องคาดหวังสิ่งตอบแทนแต่ อย่างใดไดหรือไม่
ไม่ว่าจะเป็นการทำให้สามีหรือภรรยาประหลาดใจด้วยการทำความสะอาด โรงรถ
จัดโต๊ะให้เก้าอี้ เรียบร้อย ตัดหญ้าให้กับเพื่อนบ้าน
หรือกลับบ้านเร็วขึ้นเพื่อช่วยดูแลลูกๆ แทนภรรยา
เมื่อทำสิ่งเหล่านั้นแล้วลองดูว่าตัวเองเกิดความรู้สึกอบอุ่นหรือ ไม่อย่างไร
ที่รู้ว่าได้ทำอะไร บางอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น
โดยไม่ได้คาดหวังอะไรตอบแทนจากผู้ที่ท่านช่วยเหลือ
ถ้า ท่านฝึกฝนดู ผมคิดว่าท่านจะได้พบว่าความรู้สึกอันดีงาม
ที่ เกิดขึ้นนั้นนับเป็นรางวัลอันทรงคุณค่าโดยตัวของมันเองอยู่แล้ว
ไม่มีใครในโลกนี้ที่เกิดมาแล้ว
ไม่เคยประสบพบเจอแต่ความล้มเหลว
แต่ถ้าหาก เรายังจมปลัก อยู่ กับความล้มเหลวโดยไม่คิดที่จะลุกขึ้นมาสู้ใหม่
ชีวิตนี้ของเราก็จะพ่ายแพ้และล้มเหลวตลอดไป
เมื่อใดก็ตามที่เราประสบความล้มเหลว
เราก็จะได้รับบทเรียนให้กับชีวิต
การค้นหาข้อผิดพลาด และข้อบกพร่อง
จะทำให้เราได้ประสบการณ์ และ สามารถลุกขึ้นสู้
จนท้ายที่สุดก็จะพบ กับชัยชนะ จากการต่อสู้นั้นๆ
หาก เราคิดในทางสร้างสรรค์
ความ ล้มเหลวยังทำให้เรามีสติปัญญาคิดไตร่ตรองมากยิ่งขึ้น
มีกำลังใจที่เข็มแข็ง มีความเชื่อมั่น เข้าใจในความทุกข์
และมีความอุตสาหะมากยิ่งขึ้นด้วย
ถ้าเราคิดได้ดังนี้เราจะมีแรงฮึด
ลุกขึ้นมาสู้ได้อีกอย่างแน่นอน
การรู้จัก ที่จะมีความอดทน ต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรค
เป็น สิ่งสำคัณอย่างยิ่งกับความเจริญก้าวหน้า
คนที่ไม่รู้จักอดทนต่อสู้ มักจะมีชีวิตที่แห้งเฉา
อยู่อย่างซังกะตายไปวันๆ
ชีวิต ไม่มีความหมายกับคนพวกนี้เลย
ผู้ ที่ไม่อดทนต่อสู้กับอุปสรรค
จะ ไม่มีทางประสบความสำเร็จในชีวิตนี้ได้
เพราะเขาจะไม่มีพลังใดๆ มา ต่อสู้กับปัญหาได้เลย
เขา จึงต้องพบกับความผิดหวัง และ ความล้มเหลวอยู่เป็นประจำนั่นเอง
นอก จากนี้การต่อสู้ ที่งดงาม
ก็ มิใช่การต่อสู่ที่เหยียบย่ำผู้อื่น
จน ทำให้ตัวเองกลายเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จแต่เพียงผู้เดียว
เมื่อ ใดก็ตามที่เราลงมือต่อสู้
เรา ก็จะพบว่า...
เราก็มีความสามารถและ มีพรสวรรค์
ที่กำลังก่อตัวอยู่ใน ตัวเราอย่างไม่น่าเชื่อ
ชึ่ง นี้นี่เองคือผลพลอยได้ อย่าง หนี่ง
ของการได้ลงมือต่อสู้ นั่นเอง
ให้โดยไม่หวังผล
นี่เป็นกลวิธีที่จะช่วยให้ท่านฝึกปฏิบัติผสมผสาน
การให้บริการเข้าไปในชีวิตของท่านได้
วิธีนี้จะแสดงให้เห็นว่าการทำสิ่งดีงามแก่ผู้อื่น
โดยไม่คาดหวังผลตอบแทนเป็นเรื่องง่าย
และทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีเพียงใด
บ่อยครั้งทั้งรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวที่เราต้องการอะไรบางอย่างจาก ผู้อื่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเราได้ทำอะไรบางอย่างให้ผู้อื่น เช่น
"ฉันล้างห้องน้ำเสร็จแล้ว ตอนนี้เธอทำความสะอาดห้องครัวบ้าง"
หรือ "ผมช่วยดูแลลูกๆ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว อาทิตย์นี้คุณควรดูแลลูกๆ บ้าง"
ดูคล้ายกับว่าเราจะสะสมคะแนนการทำความดีของเราเอง
มากกว่าจะระลึกว่าการให้เป็นรางวัลในตัวของมันเอง
เมื่อทำอะไรบางอย่างที่ดีงามให้กับใครบางคนด้วยความเต็มใจอย่าง แท้จริง
ท่านจะสังเกตเห็น ว่า (หากจิตใจของท่านสงบพอ)
ความรู้สึกดีงามอันเกิดจากความสงบและสันติจะเกิดขึ้น
เช่นเดียวกับการออกกำลังกายจะทำให้เกิดการหลั่งฮอร์โมนเอน เดอร์ฟินส์ในสมอง
ซึ่งจะทำให้ร่างกาย เรารู้สึกดีขึ้น
การ กระทำที่ประกอบด้วยความรักและความเมตตา
จะ ช่วยปลดปล่อยความตรึงเครียดทางอารมณ์
เช่นเดียวกัน รางวัลของท่านก็คือความรู้สึกที่ได้รับรู้ว่า
ท่านมีส่วนร่วมในการแสดงความรักความเมตตา
ท่านไม่จำเป็นต้องได้รับอะไรบางอย่างตอบแทนหรือแม้แต่คำว่าขอบคุณ
ที่จริงแล้วท่านไม่จำเป็นแม้แต่ให้บุคคลผู้นั้นทราบว่าท่านได้ทำ อะไรให้เขาบ้าง
สิ่งที่รบกวนความรู้สึกสงบสุขในจิตใจคือความคาดหวังที่จะได้รับผล ตอบแทน
ความคิดของเราเอง ที่นึกถึงแต่สิ่งที่เราต้องการ
หรือควรได้รับจะรบกวนแทรกแซงความรู้สึกสงบสุขในใจ
วิธีแก้ไขก็คือการสังเกตความคิดของตัวเองว่า
"ฉันต้องการอะไรบางอย่างเป็นการตอบแทน" ได้เกิดขึ้นแล้ว
และพยายามขจัดความคิดดังกล่าวอย่างนุ่มนวล
เมื่อไม่มีความคิดดังกล่าวความรู้สึกทางบวกจะหวนคืนมา
ทดลองดูว่าท่านสามารถคิดถึงอะไรบางอย่างอันดีงาม
ที่ท่านสามารถทำให้กับผู้อื่นโดยไม่ต้องคาดหวังสิ่งตอบแทนแต่ อย่างใดไดหรือไม่
ไม่ว่าจะเป็นการทำให้สามีหรือภรรยาประหลาดใจด้วยการทำความสะอาด โรงรถ
จัดโต๊ะให้เก้าอี้ เรียบร้อย ตัดหญ้าให้กับเพื่อนบ้าน
หรือกลับบ้านเร็วขึ้นเพื่อช่วยดูแลลูกๆ แทนภรรยา
เมื่อทำสิ่งเหล่านั้นแล้วลองดูว่าตัวเองเกิดความรู้สึกอบอุ่นหรือ ไม่อย่างไร
ที่รู้ว่าได้ทำอะไร บางอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น
โดยไม่ได้คาดหวังอะไรตอบแทนจากผู้ที่ท่านช่วยเหลือ
ถ้า ท่านฝึกฝนดู ผมคิดว่าท่านจะได้พบว่าความรู้สึกอันดีงาม
ที่ เกิดขึ้นนั้นนับเป็นรางวัลอันทรงคุณค่าโดยตัวของมันเองอยู่แล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น