วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

คุณค่าของความผิดหวัง

คงไม่มีชาวลอนดอนคน ไหนไม่รู้จัก A-Z Maps หนังสือแผนที่ที่แม้แต่นักท่องเที่ยวที่คิดจะอยู่มหานครแห่งนี้ เพียงชั่วเวลาสั้นๆ ก็ยังต้องมีไว้คู่กาย

แต่ถึง แม้คุณไม่เคยไปลอนดอน คุณก็ต้องรู้จักหรือได้ยินชื่อ ฮอลิเดย์อินน์ กับแอร์เอเชียแน่นอน อาจจะเคยใช้บริการของทั้งสองแล้วด้วยซ้ำ

ทราบ หรือไม่ว่า A-Z Maps ฮอลิเดย์อินน์ และแอร์เอเชีย มีอะไรอย่างหนึ่งที่เหมือนกัน นอกเหนือจากการเป็นสินค้าหรือบริการที่ นักเดินทางที่ติดต่อหรืออาศัยอยู่ในซีกโลกตะวันตกรู้จักดี


คำตอบก็คือ ทั้งสามมีจุดเริ่มต้นมาจากปัญหาหรือความผิดหวัง

วัน หนึ่งในปี 1935 ฟิลลิส เพียร์ซอลได้รับเชิญไปร่วมงานปาร์ตี้แห่งหนึ่งในกรุง ลอนดอน เธอรู้ดีว่ามหานครแห่งนี้มีตรอกซอกซอยซับซ้อนมาก เมื่อ ถึงวันงานเธอจึงเอาแผนที่ติดตัวไปด้วย แต่มัน ก็ไม่ช่วยให้เธอไปถึงบ้านเจ้าภาพได้ทันเวลาเลย เธอหลง ทางอยู่พักใหญ่เนื่องจากแผนที่นั้นหยาบและล้าสมัยแล้ว นั่น คือจุดเริ่มต้นให้เธอคิดทำหนังสือแผนที่กรุงลอนดอนที่ครอบคลุมทุกถนนและตรอก ซอกซอยอย่างละเอียด นับแต่วันนั้นชีวิตของเธอก็เปลี่ยนแปลงไป จากนัก วาดรูปเหมือนกลายเป็นนักทำแผนที่และนักออกแบบตัวอักษรที่โด่งดังทั่วอังกฤษ กลางปี 1952 เคมมอนส์ วิลสัน ขับรถพาครอบครัวไปกรุงวอชิงตัน ระหว่างทางต้องนอนค้างแรมตามโรงแรมริมทาง เขา รู้สึกผิดหวังมากกับโรงแรมทุกแห่งที่เข้าพักเพราะนอกจากจะไม่สะอาดแล้ว บริการ ก็ย่ำแย่ เอาแน่เอานอนไม่ได้ เขาจึงเกิดความคิดที่จะสร้างโรงแรมที่ สะอาดบริการได้มาตรฐาน เป็นมิตรกับครอบครัว ราคา ไม่แพงและเข้าถึงง่าย จากอาชีพนักสร้างบ้านเขากลายเป็นผู้บริหารโรงแรม ในชั่ว เวลาไม่กี่ปีโรงแรมได้ขยายสาขาไปอย่างรวดเร็วจนเป็นที่รู้จักทั่วโลก


โทนี เฟอร์นันเดซ ไปเรียนอังกฤษตั้งแต่อายุ 12 ความสุขของเขาใน วัยเยาว์คือการได้กลับไปเยี่ยมบ้านที่กัวลาลัมเปอร์วันหนึ่งหนุ่มโทนีขอ อนุญาตพ่อกลับไปเที่ยวบ้านกลางภาคเรียน แต่พ่อ ไม่อนุญาตเหตุผลก็เพราะค่าเครื่องบินแพงมาก ด้วยความรู้สึกผิดหวัง เขาจึง ชดเชยด้วยการไปเดินแกร่วแถวสนามบินฮีทโธรว์ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห ์ เพื่อ ดูเครื่องบินขึ้นลง นั่นคือจุดเริ่มต้นของความฝันที่จะเป็นเจ้าของสายการบิน ต้นทุนต่ำ ในที่สุดฝันของเขาเป็นจริงเมื่ออายุ 37 ปี ก่อนเหตุการณ์ 11 กันยาฯแค่ 3 วันเท่านั้น

เมื่อพบกับปัญหาหรือความไม่สมหวังเรามักเกิดความหงุดหงิด ขุ่นเคือง หรือโมโหโกรธา หลายคนอาจซ้ำเติมด้วยการโทษชะตากรรมหรือความซวยของตน แต่ นั่นก็มีแต่จะทำให้เราทุกข์มากขึ้น และไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเลย แต่ถ้า หากเราหยุดคร่ำครวญ แล้วหันมาใคร่ครวญสิ่งที่เกิดขึ้นเราอาจจะได้คิดและเกิด ปัญญาขึ้นมา

ทั้ง สามกรณีข้างต้นเป็นตัวอย่างของคนที่ไม่มัวหัวเสียกับเรื่องที่ไม่สมหวัง แต่ กลับมาตั้งคำถามว่า ปัญหาคืออะไร มีสาเหตุอยู่ที่ตรงไหน และจะแก้ไขได้หรือไม่ ด้วยท่าทีเช่นนี้ ปัญหาจึงกลายเป็นตัว กระตุ้นปัญญาทำให้เกิดความคิดที่จะทำสิ่งใหม่ๆขึ้นมา แต่ทั้งสามคนไม่ได้หยุดเท่านี้ พวกเขาไม่เพียงแต่คิดหรือฝันเท่านั้น แต่ยังลงมือทำด้วย จะว่าไปแล้วความผิดหวังทำให้พวกเขามีแรงผลักหรือความมุ่ง มั่นที่จะทำความฝันให้เป็นความจริงขึ้นมา หากไม่ เคยผิดหวังหรือเจ็บปวดด้วยตนเอง พวกเขาก็อาจแค่คิด แต่ไม่ กระตือรือร้นที่จะลงมือทำ


หลังจากหลงทางวันนั้น วัน รุ่งขึ้นฟิลลิสเริ่มทำการสำรวจกรุงลอนดอน กว่าเธอจะทำแผนที่มหานครแห่งนี้เสร็จ เธอ เดินเป็นระยะทางถึง 4,800 กิโลเมตร (เกือบ 7 เท่าของระยะทางจากกรุงเทพฯ-เชียงใหม่) ตระเวนตามถนนและตรอกซอกซอยไม่น้อยกว่า 23,000 สาย โดยตื่นตั้งแต่ตี 5 และกลับบ้าน 18 ชั่วโมงหลังจากนั้น

ทุกวันนี้แม้จะเป็นเจ้าของสายการบินแล้วโทนียังทำงานขน กระเป๋าผู้โดยสารเดือนละวัน อีกหนึ่งวันในทุกสองเดือนเขาจะไปเป็น พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน และทำหน้าที่พนักงานเช็กอินอีกหนึ่งวัน ในทุกสามเดือน เขาจึงรู้ดีว่าลูกค้าต้องการอะไร

นักวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่งเคยกล่าวว่าคนเราเมื่อล้มแล้ว ต้องหยิบอะไรขึ้นมาสักอย่างเมื่อคุณประสบปัญหาหรือความผิดหวังลองมองดูสิว่ามันมี ประโยชน์อย่างไรบ้าง
เมื่อเห็นแล้ว อย่าอยู่เฉย ควรลงมือทำให้เกิดผลด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น